งาน Merchandising และหน้าที่ของ Merchandiser

Merchandising service

        คือ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการที่จะทำขึ้นเพื่อจัดแสดงและขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในร้านจริงหรือช่องทางการขายออนไลน์ คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการจัดแสดงสินค้า ที่จำกัดอยู่แค่การจัดแสดงสินค้าในร้าน และการออกแบบเลย์เอาต์ของร้านเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะขายดีที่สุด และกำหนดราคาในลักษณะที่มีการแข่งขัน โดยใช้การจัดแสดงสินค้าเพื่อเปลี่ยนผู้คนที่เดินผ่านร้านให้กลายเป็นผู้ซื้อและลูกค้าที่จ่ายเงิน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการซื้อของลูกค้าอีกด้วย

        การจัดแสดงสินค้ายังช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และความสม่ำเสมอ นอกจากการจัดแสดงสินค้าในร้าน เลย์เอาต์ในร้าน และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมแล้ว การจัดแสดงสินค้ายังเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การสร้างข้อเสนอและส่วนลดพิเศษเพื่อการส่งเสริมการขาย การสาธิตสินค้าในสถานที่ ตัวอย่างฟรี และวิธีการขายแบบต่างๆ เทคนิคการจัดแสดงสินค้าที่ใช้ในร้านค้าขึ้นอยู่กับฤดูกาล ภูมิอากาศ วัฒนธรรม ช่วงเทศกาล ฯลฯ



ประเภทของ Merchandising service

1. Product Merchandising
คือ กิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นยอดขายของสินค้า โดยเฉพาะการจัดแสดงสินค้าต่างๆ สำหรับร้านค้าออนไลน์และช่องทางการขายอื่นๆ รวมถึงหน้าร้านค้าอีกด้วย และการออกแบบเว็บไซต์ เปรียบสเหมือนการจัดแสดงสินค้าในรูปแบบร้านค้าออนไลน์

2. Visual Merchandising
การจัดแสดงสินค้าแบบ Visual Merchandising คือ การจัดแสดงสินค้าและเน้นคุณลักษณะของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลต่างๆของสินค้านั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรวมถึงการใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดแสดงสินค้าในรูปแบบต่างๆ จัดแสงสว่างในร้านให้ดีขึ้น หรือปรับปรุงการออกแบบดิสเพลย์ของร้านค้า หรือการเน้นเฉพาะบางสินค้าเพื่อส่งเสริมการขายเมื่อมีโปรโมชั่นได้อีกด้วย และสำหรับร้านค้าออนไลน์ การเปลี่ยนธีม สีที่ใช้ การแยกเว็บเพจสำหรับสินค้าแนะนำ จัดกลุ่มเทรนด์ของสินค้าสำหรับผู้บริโภค ก็ถือเป็นการจัดแสดงสินค้าแบบ Visual Merchandisingเช่นกัน


‍3. Retail Merchandising
การจัดแสดงและขายสินค้าของคุณในร้านค้าปลีกแบบมีหน้าร้าน ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการขายทั้งหมดที่จะใช้ในการขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในร้านค้าแบบมีหน้าร้านของ

‍4. Omni-Channel Merchandising
การค้าปลีกแบบ Omni-channel คือการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าแบบศูนย์รวมบนแพลตฟอร์มเดียว และช่องทางต่างๆที่ผู้ค้าปลีกใช้ขายสินค้าและการเข้าถึงของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การค้าปลีกแบบ Omni-channel ถือเป็นการสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าให้มีความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี

‍5. Digital Merchandising
การค้าปลีกทางดิจิทัลนั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นเสมือนการค้าปลีกออนไลน์ เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์และกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางดิจิทัล การค้าปลีกออนไลน์ หรือการค้าปลีกทางอีคอมเมิร์ซ




Merchandising จำเป็นอย่างไร?

         การจัดแสดงสินค้ามีความจำเป็นเพราะเมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์และการจัดวางสินค้าใหม่ให้กับร้านค้า ก็จะสามารถดึงดูดลูกค้ารายใหม่และทำให้ลูกค้าปัจจุบันเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ที่กำลังดูสินค้าอยู่และไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรก็ตาม เกิดการซื้อโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้ลูกค้าตระหนักรู้ถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีและยังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีกด้วย การจัดแสดงสินค้าสามารถส่งผลอย่างมากต่อยอดขายและรายได้ ช่วยสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้กับลูกค้า และแม้แต่การจัดวางสินค้ายังช่วยดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านร้านค้าได้อีกด้วย


          นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว การจัดแสดงสินค้ายังช่วยให้เป็นการใช้พื้นที่ในร้านค้าได้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงเค้าโครงของร้าน กำหนดพื้นที่บนทางเดินTrafficและLayoutชั้นวางสินค้า และดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ดึงดูดลูกค้าของคุณไปยังจุดจัดแสดงสินค้าที่ต้องการให้ลูกค้าสังเกตเห็นสินค้าที่ต้องการให้มีการเลือกซื้อได้ดีกว่ามาก สิ่งนี้ช่วยให้ส่งเสริมประสบการณ์ของลูกค้าและการรับรู้เกี่ยวกับสินค้า ทำให้การช้อปปิ้งรู้สึกเหมือนประสบการณ์ที่สนุกสนาน แปลกใหม่มากกว่าเดิมอีกด้วย


หน้าที่ของ Merchandiser Service

           ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดวางสินค้า คืองานที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดวางสินค้ามักจะทำการติดตามระดับสินค้าคงคลังในคลังสินค้า สร้างและส่งรายงานสินค้าคงคลังเชิงลึก แจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับปัญหาของลูกค้า และแม้แต่แก้ไขปัญหาของลูกค้า ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมของคลังสินค้าที่จัดระบบอย่างดีเพื่อเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ จัดวางสินค้าบนชั้นวางและแสดงสินค้าบนพื้นที่ขาย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมในการจัดการสินค้าคลัง สร้างการแสดงสินค้าบนพื้นที่ขายที่น่าดึงดูด นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและข้อเสนอส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดสายตาของลูกค้า

บริการด้านการจัดวางสินค้า หมายถึง กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมและขายสินค้าผ่านการนำเสนอสินค้าขายปลีกที่มีประสิทธิภาพ บริการเหล่านี้อาจมีตั้งแต่รูปแบบทางกายภาพไปจนถึงดิจิทัล โดยมีวิธีการที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมาย

      Merchandiser มีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่สินค้าถูกจัดส่งถึงร้านค้าจนถึงช่วงเวลาที่ลูกค้าหยิบสินค้าออกจากชั้นวาง Merchandiserจะตรวจสอบการจัดแสดง (Display)ของสินค้าและการจัดหาสินค้าในร้านค้าต่างๆ ทั่วพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ตามแผนงานการตลาดตามที่กำหนด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้